วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

📚นิทานชุด "นกน้อยเจ้าปัญญา ตอนที่ ๒"📚

นิทาน 🐥นกน้อยเจ้าปัญญา🐤

ตอนที่ ๒ 🐢เต่ากับกระต่าย🐇


🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤🐤

วันนี้อากาศสดใส นกน้อยมาหาเพื่อนรักกบน้อย ที่บึงน้ำ วันนี้ น้ำแข็งแนะนำให้รู้จัก เต่าน้อย ที่ชื่อ "ต่อ"

เต่าน้อย ร่าเริง และชอบหัวเราะเสียงดังทั้งสามเกลอสนทนาเรื่องราวระหว่างกันด้วยมิตรไมตรี และสนุกสนาน

ทันใดนั้นเอง ขณะที่เต่าน้อยกำลังพูด ก็มีเศษกิ่งไม้ ปลิวมากระทบที่หัว จนเต่าน้อยรีบหดหัวไปในกระดองด้วยความเจ็บและตกใจ พร้อมกับได้ยินเสียงว่า

"นั่นเจ้าเต่า!! ใช่ไหม เจ้าเต่าต้วมเตี้ยม เชื่องช้า เจ้ากำลังโม้อะไรอยู่"

นกน้อยและกบน้อยมองไปยังต้นเสียง พบว่าคือ กระต่ายสีเทา ท่าทางเกเร กำลังยิ้มเยาะเย้ยมองตอบมา

"ไง เป็นเพื่อนเจ้าเต่าเชื่องช้าหรือ ยายกบอ้วน และ แม่นกน้อยบอบบาง"

นกน้อยและกบน้อยไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย

ส่วนเต่าน้อยพอได้ยินเสียง จึงโผล่หัวออกมาจากกระดอง พร้อมพูดว่า

"มาดูถูกว่า ข้าเชื่องช้าหรือเจ้ากระต่าย
ยังไง พวกเจ้าตัวหนึ่ง ก็เคยแพ้ พวกข้ามาก่อนนี้นั่นแหละ"

กระต่ายรู้สึกไม่พอใจ

"เรื่องนั้น ก็มีแต่พวกเจ้าเต่าขี้โม้ พูดกันไป
พวกข้า กระต่ายที่ว่องไวปานลมพัด น่ะหรือ ที่จะแพ้พวกเจ้า เต่าต้วมเตี้ยมเชื่องช้า"

"ไม่รู้ล่ะ ใครๆก็พูดกันว่า พวกเจ้าเคยแพ้พวกข้าหนหนึ่ง หน้าไม่อาย มาพูดว่าข้าเชื่องช้า" เต่าน้อยที่ไม่ยอมใครง่ายๆ โต้ตอบ

กระต่ายโกรธแล้วตอนนี้ จึงท้าทายว่า
"ถ้าอย่างนั้นมาแข่งความความเร็วกันไหมล่ะ เจ้าเต่าโง่!!!"

เต่าน้อยก็รับคำท้าว่า
"ได้เลย เจ้ากระต่ายจองหอง อวดดี ถ้าแพ้อีกครั้งล่ะก็ อย่ามาที่บึงน้ำนี้อีกนะ"

"ได้เลย เจ้าเต่าต้วมเตี้ยม และถ้าเจ้าแพ้ ก็จงออกไปจากหนองน้ำนี้เสียนะ" กระต่ายโต้กลับ

"ได้เลย" เต่ารับคำท้า

กบน้อยตัวอ้วน ท่าทางใจไม่ดี จึงหันไปมองนกน้อย นกน้อยกรอกตารอบหนึ่ง แล้วจึงพูดว่า

"อย่างนี้ก็แล้วกันนะ ให้ตะวันบ่ายคล้อยใกล้เย็น แล้วค่อยมาแข่งขัน นี่ กระต่าย
เธอจงไปหาเพื่อนเธอ หรือสัตว์อื่น มาเป็นพยาน พอได้เวลาก็มาแข่งขัน"

กระต่ายรับคำ แล้วกระโจนเข้าพุ่มไม้ข้างบึงใหญ่ หายลับตาไปอย่างรวดเร็ว!!!

กบน้อย หันมาทางเต่าน้อย และพูดอย่างวิตกกังวลว่า

"นี่ นายต่อ เธอมั่นใจหรือว่า เธอจะชนะได้
เห็นท่ากระโจนของกระต่ายตัวนั้นแล้ว
เขาเร็วกว่าฉันอีก ส่วนเธอน่ะ ยังช้ากว่าฉันมากมายนัก"

"ไม่มั่นใจหรอก ยายตัวอ้วน ฉันว่าฉันแพ้แน่ๆ" เต่าน้อยทำตาละห้อยตอบมา

"อ้าว.. แล้วเธอไปรับคำท้าทำไม ถ้าเธอแพ้  เธอก็ต้องไปจากบึงน้ำนี้นะ แล้วพวกฉันก็จะไม่เจอเธออีก"

กบน้อยกลัวสูญเสียเพื่อน วิตกจนเกือบจะร้องไห้

นกน้อยทำท่าครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า
"ไม่แน่หรอกว่าจะต้องแพ้นะ ต่อ น้ำแข็ง"

"จริงหรือเพียงออ"
เพื่อนทั้งสองของนกน้อย พูดออกมาอย่างมีความหวังพร้อมกัน

"เราจะทำแบบนี้กันนะ"
แล้วเพื่อนต่างสายพันธุ์ทั้งสอง ก็ฟังนกน้อยอธิบายแผนการ

🕘🕤🕙🕥🕚🕦🕛🕧🕐🕜🕑🕝🕒🕞🕓🕟🕔

บ่ายคล้อย
ได้เวลาแข่งขัน!!!

กระต่ายจอมโอหัง พาพยานมาด้วย เป็นเป็ดสีน้ำตาลอ่อน ไก่แจ้หางแดง ห่านสีขาวคอยาว กระรอกหางพวง และกิ้งก่าตัวเขียวมีหนามปุ่มบนตัว

ส่วนเต่าน้อย มีพี่ปลาช่อน น้าปลาหมอ
พี่ปูก้ามแดง กบน้อย และนกน้อย เป็นพยาน

"แล้วจะแข่งกันอย่างไร"
กระต่ายถามด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

นกน้อย จึงบินออกไปกลางเวหา แล้วพูดออกมาด้วยเสียงสดใสน่ารักว่า

"สวัสดีจ้ะ พยานทุกท่าน วันนี้เราจะมาตัดสินกันว่า ระหว่าง กระต่าย กับ เต่า ผู้ใดจะมีความเร็วกว่ากัน และในการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อความเหมาะสม เราจะใช้กติกาดังนี้"

นกน้อยหยุดพูดชั่วครู่ กวาดตามองไปที่พยานทั้งหมด แล้วพูดต่อว่า

"กระต่าย จะแข่งขันโดยวิ่งบนบก ส่วน เต่าจะแข่งขันโดยการว่ายหรือดำน้ำไป โดยจุดเริ่มต้น ของกระต่าย จะอยู่ที่โคนต้นหางนกยูงตรงนี้ ส่วนเต่าจะอยู่ที่ตอไม้กลางน้ำที่มีระยะเดียวกับต้นหางนกยูง"

นกน้อยหยุดชั่วครู่ ให้เหล่าพยานซึมซับข้อความแล้วพูดต่อว่า

"ให้กระต่าย ไปอยู่ที่โคนต้นหางนกยูงนี้เลย ส่วนเต่าขณะนี้ ได้อยู่ที่ตอไม้กลางน้ำแล้ว"

นกน้อยกรอกตา แล้วหันไปทางตอไม้กลางบึงร้องเรียกเสียงใส

"ยู้ฮู!!! เต่าน้อย เธออยู่จุดเริ่มต้นหรือยัง"

ที่ตอไม้กลางบึง ก็ปรากฎเต่าตัวหนึ่งลอยตัวขึ้นมา โผล่หัวขึ้นมารับคำเรียก

นกน้อยกระพริบตา พูดต่อว่า

"จุดหมายปลายทางหรือหลักชัยของกระต่าย ก็คือ โคนต้นตะแบก ที่อยู่เลยโค้งของบึงตรงโน้น ที่ทุกท่านเห็นอยู่ ตรงนั้นจะมีตอไม้ที่ระยะเดียวกันกลางบึงน้ำด้วย ตอไม้นั้นเป็นหลักชัยของเต่าน้อย"

"ผู้ใด ถึงหลักชัยที่ระบุไว้ก่อนกัน ผู้นั้นชนะ คือ ถ้ากระต่ายถึงโคนต้นตะแบก ก่อนเต่าถึงตอไม้กลางน้ำปลายทาง กระต่ายก็ชนะ แต่ถ้าเต่าถึงก่อน เต่าชนะ"

เมื่อเห็นว่า เหล่าพยานและผู้แข่งขันเข้าใจดีแล้ว นกน้อยจึงพูดต่อ

"เส้นทางน้ำของเต่า จะมีกอไม้ตามระยะ ๕ จุดให้ถือเป็นจุดสังเกตุ สำหรับการว่ายน้ำของเต่า เพื่อใช้เป็นทิศทางสำหรับเคลื่อนตัวไปยังหลักชัยปลายทางได้"

นกน้อยอธิบายต่อ

"ส่วนของกระต่าย ก็วิ่งไปตามเส้นทางบนบก ขนานไปกับกอไม้ที่เป็นจุดสังเกตุทั้ง ๕ จุดนั้น"

"ทุกท่านเข้าใจตรงกันนะจ๊ะ ใครมีข้อสงสัยหรือไม่จ๊ะ" นกน้อยถาม

ไม่มีใครมีข้อสงสัย และทุกคนได้ตกลงกันว่า ไก่แจ้หางแดง และพี่ปลาช่อน จะอยู่ตรงจุดเริ่มต้นปล่อยตัว ห่านสีขาวคอยาวและพี่ปูก้ามแดง จะอยู่ที่หลักชัยปลายทาง

ส่วนพยานตัวอื่นๆ ก็กระจายไปตามจุดต่างๆ ตามที่เห็นสมควร

ส่วนนกน้อย จะบินสังเกตุการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงหลักชัย

การแข่งขันจะเริ่มขึ้น โดยพี่ปลาช่อนจะใช้หางสะบัดหรือตีน้ำให้เกิดเสียงดัง

เริ่มการแข่งขัน!!!

พี่ปลาช่อน ลืมตาใสแจ๋ว ทำปากห่อ แล้วสะบัดหางตีน้ำด้วยลีลาระบำใต้น้ำ จนเกิดเสียงดัง

ตูม!!!

กระต่ายกระโจนออกวิ่งอย่างเร็วรี่ปานลมพัดด้วยความมั่นใจ

กระต่ายวิ่งไป ตาก็มองไปที่เป้าหมายที่เป็นกอไม้ จุดสังเกตุที่ ๑

ใกล้เข้าไปแล้ว กระต่ายวิ่งไปยิ้มไปอย่างมั่นใจ

ทันใดนั้นเอง ก่อนจะผ่านจุดสังเกตุที่ ๑
กระต่ายก็เห็นกระดองและหัวเต่าโผล่พ้นน้ำที่กอไม้
และก่อนที่เต่าจะวิ่งไปถึง เต่าก็ดำน้ำหายไปแล้ว

กระต่ายรู้สึกตกใจ รีบเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็วขึ้นอีก ตาก็จ้องไปที่จุดสังเกตุจุดที่ ๒

และเหมือนจุดที่ ๑  ก่อนที่กระต่ายจะไปถึงจุดที่ ๒ ก็เห็นเต่าโผล่หัวและกระดองมาที่กอไม้จุดที่ ๒ แล้ว และดำน้ำหายไปก่อนที่กระต่ายจะวิ่งไปถึงจุดสังเกตุ

กระต่ายตกใจหนักขึ้น และรู้ตัวว่าเป็นรอง
เลยเร่งฝีเท้าสุดชีวิต

และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเหมือนเดิม ก่อนที่กระต่ายจะไปถึงจุดสังเกตุแต่ละจุดที่เหลือ จะเห็นเต่าดำน้ำไปถึงก่อนแล้ว

ช่วงสุดท้าย หลักชัยอยู่ที่โคนต้นตะแบก กระต่ายวิ่งสุดแรงจนลิ้นห้อย แต่ก็พบว่า เต่าได้ไปถึงหลักชัยของตนเองก่อนแล้ว

พี่ปูก้ามแดง ชูก้าม ร้องออกมาว่า
"เต่าถึงเส้นชัยก่อน เต่าชนะ"

ห่านสีขาว คอยาวก็ต้องจำใจขานตามว่า
"เต่าชนะ" ไปด้วยอีกตัว

กระต่ายรู้สึกอับอาย ท่าทางหงอย
มองไปที่เต่าน้อยแวบหนึ่ง แล้วรีบกระโจนหนีหายไปก่อนที่เต่าน้อยจะทันได้พูดอะไร

นกน้อยจึงได้ประกาศให้ได้ยินทั่วกันว่า

"ท่านทั้งหลาย บัดนี้การแข่งขันได้เสร็จสิ้นแล้ว ผลปรากฎว่า เต่ามีความเร็วมากกว่ากระต่าย และเต่าเป็นผู้ชนะ ต่อไปนี้กระต่ายไม่สามารถเที่ยวไปพูดว่า เต่าเชื่องช้ากว่าตนเองได้อีก ขอให้ทุกท่านได้รับทราบผลการแข่งขันครั้งนี้จ้ะ"

หลังจากนั้น เหล่าพยานต่างก็แยกย้ายกันไป เหลือแต่สามสหาย ที่ต่างก็มองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะไปพร้อมกัน

เต่าน้อยได้พูดขึ้นว่า

"เพียงออ เธอช่างฉลาดเสียจริง ถ้าไม่ได้เธอ เราคงพ่ายแพ้ และต้องออกไปจากบึงน้ำนี้แล้ว"

นกน้อยตอบว่า

"ไม่เป็นไรหรอกต่อ เพื่อนกันก็ต้องช่วยกัน แต่ชัยชนะครั้งนี้ ขอให้เก็บเป็นความลับระหว่างพวกเรานะ แล้วก็ฝากขอบใจไปถึงพี่ๆน้องๆของเธอด้วยนะ "ต่อ" ถ้าไม่ได้พวกเขา เราก็ไม่สามารถชนะได้หรอก"

"จ้ะ ขอบใจนะเพียงออ" เต่าน้อยพูด

"นี่ก็เย็นมากแล้ว เราจะต้องกลับบ้านเราแล้วหล่ะ ป่านนี้แม่เราคงกำลังจะกลับไปบ้านแล้วเช่นกัน ไม่อยากให้แม่รอ แล้วเจอกันใหม่นะ น้ำแข็ง ต่อ"

"แล้วเจอกันจ๊ะ เพียงออ บ๊าย บาย"
เพื่อนทั้งสองของนกน้อยพูดพร้อมกัน

เมื่อนกน้อยมาถึงรังบนต้นไม้ใหญ่ ก็พบว่าแม่นกกลับมาถึงก่อนแล้ว

นกน้อยได้เล่าเรื่องราวการแข่งขันในวันนี้ให้แม่นกฟัง

แม่นกถามอย่างสงสัยว่า

"น้อง แม่สงสัยนะ แม้เต่าจะดำน้ำได้เร็วกว่าคลานบนบก แต่ก็ไม่น่าเร็วกว่ากระต่ายนะลูก"

"ไม่เร็วกว่าหรอก..หม่าม้า"

"อ้าว..แล้วเต่าน้อยเพื่อนน้อง ชนะได้อย่างไรล่ะ"

นกน้อยจึงเฉลยว่า

"ต่อ" ที่เป็นเต่าน่ะ มีพี่ๆน้องๆวัยใกล้เคียงและขนาดใกล้เคียงกันอยู่ ๖ ตัว รวม "ต่อ" ด้วย ก็เป็น ๗ ตัว!!!

นกน้อยก็ให้ ๕ ตัวแยกไปแอบซ่อนตัวอยู่ที่จุดสังเกตุทั้ง ๕ จุด

ให้พี่ของ "ต่อ" ตัวหนึ่ง ไปอยู่ที่ตอไม้จุดเริ่มต้น  แล้วให้ "ต่อ" ไปแอบอยู่ที่ตอไม้ที่เป็นหลักชัย

พอเริ่มแข่งขัน กระต่ายออกวิ่ง นกน้อยก็บินตามไปด้วย นกน้อยย่อมบินได้เร็วกว่ากระต่ายวิ่ง เมื่อนกน้อยบินผ่านไปถึงจุดสังเกตุแต่ละจุด เต่าแต่ละตัวก็จะโผล่แสดงตัวออกมา ทำให้เห็นเหมือนว่า เต่าดำน้ำได้เร็วกว่ากระต่ายวิ่ง

พอนกน้อยบินนำไปถึงหลักชัย ต่อที่แอบอยู่ที่ตอไม้หลักชัยก่อนแล้ว ก็แสดงตัวออกมา

แม่นก หายข้องใจ แต่ไม่วายจะถามขึ้นว่า

"อย่างนี้ ไม่ถือว่าโกงหรือลูก"

"น้อง อยากให้หม่าม้า เรียกว่า ชนะด้วยปัญญามากกว่าจ้ะ"

นกน้อยพูดต่อ

"ก็ กระต่ายตัวนั้นน่ะ หม่าม้า โอหัง อวดดี เกเร และชอบดูถูกผู้อื่น ต้องโดนแบบนี้แหละจะได้รู้สึก"

และถ้า หม่าม้า เห็นตอนกระต่ายหน้าเสียและอับอายที่ตนเอง พ่ายแพ้ให้แก่ผู้ที่ตนเองดูถูก แม่จะรู้สึก อืม.. รู้สึกดีทีเดียว"

นกน้อยพูดพร้อมทำท่าทางน่ารัก
จนแม่นก อดจะหัวเราะเบาๆไม่ได้

ในขณะเดียวกัน แม่นกได้ตระหนักแล้วว่า
ตนเองมีลูกที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบ พร้อมที่ตอบโต้กับใครก็ตามที่มาคุกคาม
หรือสั่งสอนให้ผู้อื่นที่คิดหรือทำไม่ดีได้รับบทเรียน ในใจแม้จะชื่นชม แต่แม่นก ก็ต้องเตือนตัวเองว่า จะต้องเลี้ยงลูกที่มีความชาญฉลาดนี้ ให้มีคุณธรรม และรู้จักการให้อภัยด้วย

ในค่ำคืนนั้น แม่นกพาลูกน้อยเข้านอนเพื่อรับไออุ่นซึ่งกันและกันภายในรังนอน บนต้นไม่ใหญ่ ณ ชายป่าแห่งนั้น อย่างมีความสุข

🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥🐥

พิรุณกลางราตรี
๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

1 ความคิดเห็น: